ฝิ่นต้น สรรพคุณและประโยชน์ของต้นฝิ่นต้น

 

ฝิ่นต้น สรรพคุณและประโยชน์ของต้นฝิ่นต้น



หลายๆคนคงคิดได้ยินคำว่าฝิ่นมามากทั่งได้ยินจาากเพื่อนๆหรือคนนอกคนใก้ลทั่งใกล้ชิดและไม่ไกล้ชิดแต่เราหลายๆคนก็คงคิดว่าฝิ่นเป็นสารเสพติดได้อย่างเดียว ความจริงแล้วอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปก็ได้ วันนี่เราจึงจะมารู้จักฝิ่นในทางดีและทางกากรแพทย์การรักษากันบ้างดีกว่า

ฝิ่นต้น ชื่อวิทยาศาสตร์ Jatropha multifida L. จัดอยู่ในวงศ์ยางพารา (EUPHORBIACEAE)

สมุนไพรฝิ่นต้น มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า มะหุ่งแดง (ภาคเหนือ), มะละกอฝรั่ง (กรุงเทพฯ), ทิงเจอร์ต้น ว่านนพเก้า (คนเมือง) เป็นต้น




ลักษณะของฝิ่นต้น

  • ต้นฝิ่นต้น จัดเป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลักษณะของลำต้นคล้ายกับต้นมะละกอ แต่มีขนาดเล็กและเป็นแกนแข็งกว่า โดยลำต้นจะมีความสูงได้ประมาณ 2-3 เมตร และอาจสูงได้ถึง 6 เมตร ลำต้นค่อนข้างอวบน้ำ เปลือกลำต้นเรียบเป็นสีเทา มีกระและจุดเล็ก ๆ มียางสีขาว รากมีลักษณะเป็นหัว ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกประเภท ต้องการน้ำและความชื้นในระดับปานกลาง






ใบฝิ่นต้น ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ก้านใบยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร ลักษณะของใบเป็นรูปกลม ขอบใบลึกเป็นแฉกเว้าลึกลักษณะคล้ายฝ่ามือ ประมาณ 9-11 แฉก ในขอบใบที่เป็นแฉกจะหยักเป็นซี่ฟันช่วงกลางขอบใบ ปลายเป็นติ่งแหลมถึงยาวคล้ายหาง ปลายใบแหลม พบบ้างมีรยางค์แข็ง ใบมีขนาดประมาณ 10-30 เซนติเมตร แผ่นใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน หลังใบเรียบ ก้านใบยาวกลม หูใบแยกเป็นง่ามรูปขนแข็ง ยาว 2 เซนติเมตร







ดอกฝิ่นต้น ออกดอกเป็นช่อแบนแน่นติดกันแบบช่อเชิงหลั่น โดยจะออกที่ปลายกิ่ง ก้านช่อดอกยาวได้ถึง 23 เซนติเมตร ดอกย่อยมีขนาดเล็กติดกันแน่น ดอกมีสีแดงสด ดอกเป็นแบบแยกเพศ ลักษณะของดอกคล้ายกับดอกเถาคันหรือดอกกะตังบาย กลีบเลี้ยงในดอกเพศผู้จะเป็นรูปไข่กลับกว้าง ยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร ส่วนกลีบดอกแยกจากกัน ยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร สีแดงสด เกสรเพศผู้มี 8 อัน ก้านเกสรแยกกัน ส่วนกลีบดอกในดอกเพศเมียจะยาวได้ถึง 9 มิลลิเมตร ยอดเกสรเพศเมียเป็นรูปกระจุก เป็นพู 2 พู





ผลฝิ่นต้น ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม มีพู 3 พู คล้ายผลสลอดหรือผลปัตตาเวีย แต่จะมีขนาดใหญ่กว่า แต่ละพูจะมีลักษณะเป็นสัน ผลมีขนาดประมาณ 3 เซนติเมตร ผิวผลเรียบ ผลอ่อนเป็นสีเขียว พอแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีออกเหลืองหม่น มีลายสีน้ำตาล มีจุกขั้วขนาดเล็ก แต่ละพูมีเมล็ด 1 เมล็ด เมล็ดมีขนาดยาวประมาณ 1.7-2 เซนติเมตร


ประโยชน์ของฝิ่นต้น

  1. รากมีรสเฝื่อนคล้ายรากมันสำปะหลัง สามารถนำมาเผาแล้วกินได้[1]
  2. เมล็ดใช้เป็นยาเบื่อ[1] บ้างนำเมล็ดมาใช้เป็นยาเบื่อปลา ส่วนอีกข้อมูลระบุว่า ต้นมีสารจำพวกซาโปนิน สามารถนำมาใช้เบื่อปลาได้เช่นกัน
  3. ใบใช้ในการย้อมสีเส้นไหม โดยใบสด 15 กิโลกรัม สามารถย้อมสีเส้นไหมได้ 1 กิโลกรัม โดยสีที่ได้คือสีน้ำตาลเขียว[7]
  4. นิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกประเภท




สรรพคุณของฝิ่นต้น

  1. เปลือกต้นมีรสฝาดเมาร้อน มีสรรพคุณเป็นยาแก้ลมและโลหิต (เปลือกต้น)
  2. ใช้เป็นยาคุมธาตุ (เปลือกต้น)
  3. เปลือกต้นใช้เป็นยาแก้อาการลงแดง (เปลือกต้น)
  4. เปลือกต้นใช้ปรุงเป็นยาแก้อาเจียน (เปลือกต้น) ส่วนเมล็ดมีรสเมาเบื่อ มีสรรพคุณทำให้อาเจียนเช่นกัน แต่มีอันตรายมากจนอาจใช้เป็นยาเบื่อได้ จึงไม่นิยมใช้กัน(เมล็ด)
  1. เปลือกต้นใช้เป็นยาแก้บิดปวดเบ่ง แก้ท้องเสีย ท้องร่วง (เปลือกต้น)
  2. รากใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้โรคลำไส้ (ราก)
  3. รากใช้ต้มกับน้ำดื่มช่วยย่อยอาหาร (ราก)
  4. ใบมีรสเมา ใช้ต้มกินเป็นยาถ่าย (ใบ)] ส่วนเมล็ดมีน้ำมันประมาณ 30% ใช้กินเป็นยาถ่ายอย่างแรง (เมล็ด)
  5. เมล็ดใช้บีบเอาน้ำมัน ใช้ทั้งภายในและภายนอกเป็นยาทำให้แท้งบุตร (เมล็ด)
  6. น้ำยางใช้ใส่แผลสดเป็นยาช่วยสมานแผล ใช้ทาแผลปากเปื่อย แผลมีดบาด แผลอักเสบเรื้อรัง จะช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น (น้ำยาง)
  7. ใบใช้เป็นยาฆ่าหิด กำจัดพยาธิผิวหนัง ใช้สระผมแก้เหา (ใบ)
  8. เปลือกต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดเมื่อยตามข้อ ปวดเส้นเอ็น (เปลือกต้น)
  9. สมุนไพรฝิ่นต้นจัดอยู่ในพิกัดตรีเกสรมาศ (ตำรับยาที่ประกอบไปด้วย เปลือกฝิ่นต้น เกสรบัวหลวง และลูกมะตูมอ่อน มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ คุมธาตุ แก้ท้องร่วง) และพิกัดตรีเกสรเพศ (ตำรับยาที่ประกอบไปด้วย เปลือกฝิ่นต้น เกสรบัวหลวงขาว และเกสรบัวหลวงแดง มีสรรพคุณเป็นยาคุมธาตุ แก้ไข้เพื่อปถวีธาตุกำเริบ ทำให้ตัวเย็น แก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน)








ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบล็อค
นี่จนถึงตอนจบ



แหล่งที่มา

จัดทำโดย
นาย ชัยวัฒน์ สังข์ทอง เลขที่6 ม.6/4

ความคิดเห็น